หลายคนอาจกังวลกับสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมาและยังคงดำเนินอยู่ แต่อีกปัญหาสุขภาพที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม คือปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่กลับมามีปริมาณเกินค่ามาตรฐาน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เกินมาตรฐานทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภาคเหนือ (ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพสะสมในระยะยาว หากได้รับอย่างต่อเนื่อง)
ปัจจัยที่ทำให้ PM 2.5 ยังคงเป็นปัญหาในปัจจุบัน คือ ยังคงมีแหล่งสร้างมลพิษทางอากาศซึ่งเรายังไม่สามารถควบคุมให้ปริมาณมลพิษทางอากาศจากแหล่งที่มาเหล่านี้ลดลงได้ รวมถึงสภาพความกดอากาศต่ำ ทำให้การเคลื่อนย้ายของฝุ่นมลภาวะทางอากาศไม่ถ่ายเทออกไปโดยง่าย

ความรุนแรงของ PM 2.5 สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย และทำลายระบบอวัยวะต่างๆ ทำให้เกิดโรคเรื้อรังและมะเร็ง และสามารถก่อให้เกิดโรคอะไรบ้าง

1. โรคระบบทางเดินหายใจ
ทำให้ปอดเกิดการอักเสบ ระคายเคือง และเป็นโรคระบบทางเดินหายใจได้
2. โรคถุงลมโป่งพอง
อาจทำให้เกิดมะเร็งปอด (แม้ไม่ได้สูบบุหรี่)
3. โรคผิวหนัง
ทำให้ผิวหนังอักเสบ และเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
4. โรคหัวใจและหลอดเลือด
การสูดฝุ่นเข้าไปมากๆ ทำให้เลือดข้นได้ และทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
5. โรคเยื่อบุตาอักเสบ
ทำให้ระคายเคือง อักเสบ ตาแห้ง ตาแดง แสบตา คันตา

การป้องกันและดูแลสุขภาพจากฝุ่น PM 2.5
– สวมหน้ากากที่มีคุณภาพ ป้องกันฝุ่น PM 2.5
– นอนหลับให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
– งดกิจกรรมกลางแจ้ง
– เปิดเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองที่มีคุณสมบัติในการกรองฝุ่น PM 2.5
– หากเกิดความผิดปกติกับร่างกาย ควรพบแพทย์
– ติดตามการเฝ้าระวังดัชนีคุณภาพอากาศ

 

ติดตามเรื่องราวดีๆ ที่ bazarop.com