วิธีการดูแลลูกหมา-ลูกแมว และแม่หลังคลอด
การดูแลสัตว์เลี้ยงหลังคลอด เมื่อเลือกเลี้ยงสัตว์แล้วไม่ว่าจะเป็นหมาแมว บางคนได้มาจากเพื่อนหรือใครที่ต้องการหาซื้อสัตว์เลี้ยงมีช่องทางที่หาได้งายๆ ในออนไลน์ เมื่อได้มาเลี้ยงแล้วเจ้าของต้องจัดการโปรแกรมสุขภาพ การกระตุ้นวัคซีน ถ่ายพยาธิ หากสัตว์เลี้ยงขาดการกระตุ้นวัคซีน หรือมีกำหนดจะครบในช่วงที่จะให้ตั้งท้องควรทำวัคซีนก่อนการจัดการการผสมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากช่วงที่ สัตว์ตั้งท้องและให้นมลูก ไม่แนะนำให้ทำวัคซีน เพราะการทำวัคซีนอาจทำให้แม่สัตว์มีไข้ ผลการสร้างภูมิในระหว่างการตั้งท้องอาจไม่ดี และวัคซีนบางประเภทอาจมีผลต่อการเจริญของลูก
การดูแลลูกหมาและลูกแมวหลังคลอด ออกเป็น 2 ส่วนคือ การดูแลลูก และการดูแลแม่
การดูแลลูกหมาและลูกแมวหลังคลอด
ลูกหมาและลูกแมวหลังคลอด มักเสียชีวิตจาก 1. การได้พลังงานหรืออาหารไม่เพียงพอ 2. การทนความหนาวหรือการปรับตัว เพื่อควบคุมอุณหภูมิร่างกายไม่ได้ และ 3. เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ จึงมีโอกาสติดเชื้อโรคและเจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้นการเลี้ยงดูลูกหมาและลูกแมวควรคำนึงถึงคือ
- ภายใน 3 วันแรกหลังคลอด ลูกๆ ต้องได้รับการกินนมน้ำเหลือง (colostrum อ่านว่าโคลอสตุ้ม) จากแม่ซึ่งเป็นนมที่มีภูมิต้านทานโรคสูง เนื่องจากภูมิต้านทานโรคจากแม่ถ่ายทอดผ่านทางรกในขณะที่อยู่ในท้องได้น้อยมาก จึงต้องพยายามจับให้ลูกทุกตัวกินนมให้ได้ โดยเฉพาะ 24 ชมแรกหลังคลอด แม่หมาหรือแม่แมวที่ได้รับการผ่าคลอด อาจมีนมน้อย แต่ยังต้องพยายามจับลูกดูดนมแม่ เต้านมที่ได้รับการกระตุ้นบ่อยๆ จะสร้างน้ำนมปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์นมโคลอสตุ้มออกมาจำหน่ายแล้ว
- ถ้าแม่หมาหรือแม่แมวได้รับการผ่าคลอด หลังจากฟื้นจากยาสลบ อาจไม่รู้จักลูกตัวเอง หรือ อาจยังเจ็บแผลผ่าตัดอยู่ เมื่อนำลูกไปดูดนมแม่ แม่อาจกัดได้ คนเลี้ยงต้องคอยสังเกตอาการของแม่ อาจให้เริ่มจากการดมก่อน ถ้าแม่ยอมรับ ค่อยให้ลูกดูดนม
- กรณีที่น้ำนมแม่ไม่พอ ก็สามารถซื้อนมลูกสัตว์ป้อนเสริมให้ได้ การใช้นมแพะหรือนมโค จะมีคุณค่าอาหารน้อยกว่านมลูกสัตว์ และอาจทำให้ท้องเสียได้
- ควรมีไฟกก อยู่สูงจากลูกสัตว์อย่างน้อย 1-2 ฟุตขึ้นไป กรณีลูกสัตว์นอนสุมกันแสดงว่าลูกหนาว แต่ถ้านอนแยกๆ กัน หรือหนีห่างจากโคมไฟแสดงว่าร้อน ถ้าลูกเลี้ยงรวมกับแม่ ก็ไม่จำเป็นต้องมีไฟกก เพราะลูกมักนอนสุมอยู่ใกล้ตัวแม่ แต่ควรระวังแม่สุนัขทับลูกตัวเอง และควรดูแลความสะอาดของที่อยู่ของแม่ลูกอย่างสม่ำเสมอ
- กรณีที่กินนมแล้วลูกยังร้อง ไม่ยอมนอน ท้องแฟบ หมายถึงลูกยังกินไม่อิ่ม แต่ถ้าท้องกางๆ และ ไม่ยอมนอน แสดงว่าลูกมีอาการท้องอืด
- หลังการดูดนม แม่มักเลียบริเวณอวัยวะเพศ เพื่อกระตุ้นการขับถ่ายกรณีที่แม่ไม่ยอมทำ ให้ใช้สำลีชุบน้ำอุ่น เช็ดถูเบาๆ บริเวณอวัยวะเพศ ลูกสัตว์จะขับถ่ายออกมา และ ควรทำทุกครั้งหลังการดูดนม
- ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ลูกหมาและลูกแมวจะกินนมทุก 2-3 ชม. ในสัปดาห์ที่ 3-4 จะกินนมทุก 3-4 ชม ควรชั่งน้ำหนักลูกทุกวัน และน้ำหนักลูกควรเพิ่ม 5-10 % ทุกวัน
- เมื่อลูกอายุ 4 สัปดาห์ ควรให้ลูกหัดเลียอาหาร โดยใช้อาหารลูกสัตว์ผสมนมหรือน้ำให้อาหารเละๆ และ ใส่จานให้หัดเลียกิน โดยให้อาหารสลับกับการดูดนมได้
- ลูกหมาและลูกแมว จะลืมตา และหูจะได้ยินเมื่ออายุประมาณ 10-14 วัน
- ควรหย่านมลูกหมาและลูกแมวที่อายุ 6 สัปดาห์
- เมื่อพบอาการผิดปกติ เช่น ท้องเสีย ท้องอืดมาก ลูกไม่โต น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น มีอาการซึม ควรปรึกษาสัตวแพทย์ รวมทั้งการวางแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโรค การถ่ายพยาธิ และการควบคุมเห็บหมัด
การดูแลแม่หมาและแม่แมวหลังคลอด
โดยส่วนใหญ่สัตว์จะคลอดลูกได้เอง เจ้าของสามารถช่วยทำคลอดให้แม่หมาและแม่แมวได้ แต่หากมีอาการผิดปกติหลังคลอดในแม่หมาและแม่แมว รวมถึงการดูแลสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ที่ควรคำนึงถึง ได้แก่ เต้านมอักเสบ การติดเชื้อที่มดลูก แม่มีอาการซึม และภาวะแคลเซียมในร่างกายต่ำ (ไข้น้ำนม) โดยอาการรวมๆ ที่ควรสังเกตได้แก่
- สิ่งคัดหลั่งจากอวัยวะเพศ กรณีที่คลอดธรรมชาติมักเป็นสีแดง (ไม่ควรเป็นสีแดงสด ไม่เป็นสีน้ำตาล สีดำ หรือสีเขียว) โดยสิ่งคัดหลั่งจะหลั่งออกมามากใน 2 สัปดาห์แรก และเป็นหยดๆ ในสัปดาห์ที่ 3-4 แต่ถ้าพบปริมาณมากและต่อเนื่องหลายสัปดาห์ หรือสีสิ่งคัดหลั่งที่เปลี่ยนไป หรือ มีกลิ่น ควรนำไปพบสัตวแพทย์
- เต้านมที่แดงอักเสบ จับแล้วเจ็บ แม่ไม่ยอมให้ลูกเข้าใกล้ หรือ ให้ลูกดูดนม สีน้ำนมเปลี่ยนไป เช่น สีเขียว หรือลักษณะหนืดๆ ลูกทยอยท้องเสีย หรือ ลูกน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น แม่อาจมีปัญหาเต้านมอักเสบ ควรนำไปพบสัตวแพทย์
- กรณีที่พบว่า แม่ตัวร้อน (มีไข้สูง) ตัวสั่นๆ โดยเฉพาะหลังการให้นมลูก หรือแม่มีอาการซึม ไม่ยอมกินอาหาร ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์
- ควรมีน้ำตั้งทิ้งไว้ให้แม่หมาและแม่แมวได้กินตลอดเวลา ส่วนอาหารควรกินสูตรอาหารแม่หรือลูกสุนัข และ อาจแบ่งให้เป็น 3-4 มื้อต่อวัน และอาจเสริมนมให้แม่ได้
- เมื่อพบอาการผิดปกติ แม่ไม่สนใจลูก ไม่เลี้ยงลูก ควรปรึกษาสัตวแพทย์
สำหรับใครที่มีสัตว์เลี้ยงกำลังตั้งท้องหรือใกล้คลอด ควรจัดโปรแกรมสุขภาพเพื่อเลี่ยงต่อการติดเชื้อโรคและเจ็บป่วย และสามารถนำข้อมูล การดูแลสัตว์เลี้ยงหลังคลอด ในบทความนี้ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ไปใช้เตรียมตัวเพื่อให้แม่ของลูกๆ คลอดได้อย่างปลอดภัย และได้ต้อนรับลูกน้อย ทั้งลูกหมาและลูกแมว ให้เติบโตแข็งแรงอยู่เป็นเพื่อนกับเจ้าของไปนานๆ หลังคลอดแล้ว อย่ามัวแต่ดีใจและดูแลแต่ลูกน้อยต้องดูแลแม่ด้วย ถ้ามีอาการผิดปกติใดๆ ให้รีบไปควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
คำถามที่พบบ่อย (FAQ’s)
ควรฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ลูกหมาและลูกแมวอายุเท่าไร ?
- สำหรับการทำวัคซีนในลูกหมาและลูกแมว อายุที่เหมาะสมที่สุดคือ 2 เดือน
วัคซีนที่สำคัญสำหรับลูกหมาและลูกแมว ?
- วัคซีนป้องกันไข้หัดแมว (feline parvo virus; FPV)
- วัคซีนแคลิซิไวรัส (feline callicivirus;FCV) และเฮอร์ปีส์ไวรัส-1 (feline herpesvirus; FHV-1) หรือโรคหวัดแมว
- วัคซีนพิษสุนัขบ้า (rabies virus)
ลูกหมาและลูกแมวจะลืมตาตอนอายุเท่าไร ?
- ลูกหมาและลูกแมวแรกเกิดจะไม่ค่อยขยับตัวและยังไม่ได้ยินเสียง ตาทั้งสองข้างจะยังปิดสนิทอยู่ พออายุประมาณ 5 วัน ลูกหมาและลูกแมวจะเริ่มลืมตาได้
สามารถอาบน้ำให้ลูกหมาและลูกแมวได้ตอนอายุเท่าไร ?
- ควรเริ่มอาบน้ำลูกหมาและลูกแมว เมื่อมีอายุ 8 สัปดาห์หรือ 2 เดือน ซึ่งการฝึกตั้งแต่อายุน้อยๆ จะช่วยให้ไม่กลัวการอาบน้ำ วิธีเริ่มต้นในการฝึกอาบน้ำ ควรเริ่มจากให้จับเท้าจุ่มน้ำอุ่น จากนั้นค่อยๆ เพิ่มระดับการจุ่มน้ำ จนสามารถปรับตัวได้เหมือนปกติ
หลังคลอดให้แม่แมวกินอะไรได้บ้าง ?
- ควรให้แม่แมวกินน้ำนมหรืออาหารเหลวอุ่นสัก 1 ถ้วยและมีน้ำให้กินตลอดเวลา จากนั้นค่อยให้อาหารแข็งในช่วง 24-48 ชั่วโมง
หลังคลอดถ้าแม่หมาและแม่แมวทิ้งลูก ไม่เลี้ยงลูกจำทำยังไงดี ?
- เจ้าของต้องคอยให้นมทุก 2-3 ชั่วโมงในช่วง 2-3 อาทิตย์แรก ใช้เป็นนมสำเร็จรูปได้ หากลูกสุนัขได้รับอาหารไม่เพียงพอ จะทำให้หิวจัด กินเร็วและอาจทำให้ท้องเสีย หรือสำลักอาหารตายได้
ที่มา
https://www.baanlaesuan.com/164721/pets/
https://www.pexels.com/th-th/photo/1056251/
https://www.pexels.com/th-th/photo/1056252/
ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงได้ที่ bazarop.com